เว็บไซต์มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้

เกี่ยวกับเรา
ความเป็นมา

สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ และผลกระทบ

องค์ประกอบของการประเมินความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประกอบด้วย การรับสัมผัสกับผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Exposure) และความอ่อนไหวต่อผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Sensitivity) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในลุ่มน้ำยัง (Potential impacts) และผลกระทบดังกล่าว เมื่อผนวกกับความสามารถในการปรับตัวต่อผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Adaptive capacity) จะได้ผลลัพธ์ของการประเมินความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Vulnerability) และสำหรับประชาชนในลุ่มน้ำยัง การรับสัมผัสกับผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Exposure) ประกอบด้วยปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง ปริมาณน้ำฝน การบริหารจัดการน้ำและน้ำเสีย

สำหรับความอ่อนไหวต่อผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Sensitivity) ประกอบด้วยความยากจน รายได้ต่อครัวเรือน และความหนาแน่นประชากร ซึ่งเมื่อผนวกกันจะพบว่าประชาชนในลุ่มน้ำยังตอนล่างได้รับผลกระทบสูงสุด ทั้งในด้าน exposure และ sensitivity และเมื่อพิจารณาความสามารถในการปรับตัวต่อผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Adaptive capacity) ของประชาชนในลุ่มน้ำยัง ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถในการสร้างผลผลิตทางการเกษตร (crop yields) การเข้าถึงแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค (water access) การเข้าถึงตลาด (market access) และการเข้าถึงบริการสาธารณสุข (health services access) พบว่า ขีดความสามารถในการปรับตัวของประชาชนในลุ่มน้ำยังมีไม่เพียงพอต่อผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ถือเป็นพื้นที่ที่มีความเปราะบางสูง และจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการการปรับตัวภายใต้โครงการ EbA




การตกลงระหว่าง UNEP - DWR

ในปี พ.ศ. 2566 กรมทรัพยากรน้ำ ได้จัดทำโครงการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยอาศัยระบบนิเวศ ในบริบทความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนาในลุ่มแม่น้ำโขง ระยะที่ 1 ภายใต้ข้อตกลง
ความร่วมมือ ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำ กับโครงการสิ่งแวดล้อม
แห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme: UNEP) เพื่อดำเนินงานโครงการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยอาศัยระบบนิเวศในบริบทความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนาใน
ลุ่มน้ำโขง (โครงการ Mekong EbA South) โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานจากกองทุน เพื่อการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation Fund: AF) โดยมี UNEP เป็นหน่วยดำเนินโครงการ (Implementing Entity) และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรไทย โดยกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature: IUCN) เป็นหน่วยงานร่วมดำเนินโครงการ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำรูปแบบวิธีการปฏิบัติ สาธิตการใช้แนวทางการปรับตัวโดยอาศัยระบบนิเวศ (Ecosystem-based Adaptation: EbA) ในชุมชนเปราะบางในประเทศไทยเพื่อจัดการผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยเฉพาะภัยแล้งและอุทกภัย เสริมสร้างความตระหนักรู้ การมีส่วนร่วม และเพิ่มพูนศักยภาพในการดำเนินการของภาครัฐและชุมชนในพื้นที่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยอาศัยระบบนิเวศ โดยได้เลือกลุ่มน้ำยัง เป็นพื้นที่ศึกษานำร่องเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เปราะบางและได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำยังตอนบน ในเขตอำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ และปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำยังตอนล่าง ในเขตอำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ทั้งนี้ จะได้นำมาตรการและขั้นตอนการดำเนินการโดยใช้แนวทาง EbA ไปขยายผลให้เกิดในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ต่อไป

0
Today
0
This Week
0
This Month
0
Total